ความเป็นส่วนตัวสำหรับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2564

เรียน คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

          บริษัท เอ็ม-เซนโค โลจิสติกส์ จํากัด (“เรา”) ให้ความสําคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และข้อมูลส่วนบุคคลของ บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับท่าน หรือธุรกิจของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ดังนั้นเราจึงจัดให้มีประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เพื่ออธิบายถึงการเก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม โดยรวมถึงข้อมูลที่ท่านมอบให้แก่เราเกี่ยวกับตัวท่านเอง หรือบุคคลที่มีความ เกี่ยวข้องกับท่าน หรือธุรกิจของท่าน (“ท่าน”)
  • วิธีที่เรานําข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้
  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • ทางเลือกที่เรานําเสนอให้ท่าน รวมถึงวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และการดําเนินการให้ข้อมูลส่วน บุคคลของท่านเป็นปัจจุบัน
  • สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม

          เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่เรามีความจําเป็น และเหตุผลที่เหมาะสมในการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น โดยอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท และประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เรา เก็บรวบรวมนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์

          เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น

  • ข้อมูลที่ได้จากท่านโดยตรง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าเป็นคู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจกับเรา
  • ข้อมูลที่ได้จากบุคคลภายนอก ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าเป็นคู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจกับเรา เช่น ข้อมูล เครดิต ข้อมูลทางการค้า ข้อมูลจากลูกค้าของเรา หรือลูกค้าของท่าน ข้อมูลจากหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น
  • การสนทนาระหว่างท่านกับเรา รวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล์ บันทึกข้อความ หรือ วิธีการอื่นใด
  • เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์แอพพลิเคชั่น หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของเรา
  • เมื่อท่านทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผ่าน ทาง Social Media ในกรณีดังกล่าว เราจะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเลือกให้ปรากฏต่อ สาธารณะเท่านั้น

          นอกจากนี้ เราอาจร่วมกับบุคคลภายนอกเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เกี่ยวกับกิจกรรมออนไลน์เมื่อท่านเข้า เยี่ยมชมแหล่งข้อมูลออนไลน์ของเรา

          ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราอาจเก็บรวบรวมมีดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด หมู่โลหิต นําหนัก ส่วนสูง หมายเลขบัตรประจําตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขอื่น ๆ ที่ราชการออกให้ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏอยู่บนเอกสารทีรัฐ ออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน เอกสารสําคัญของนิติบุคคลที่ออกให้โดยราชการ (กรณีลูกค้าเป็นนิติบุคคล) หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีภาพบนบัตรประจําตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ ข้อมูลการจดจําใบหน้า และเสี่ยง รูปภาพ ภาพหรือบันทีกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
  • ข้อมูลทางการเงิน: ข้อมูลบัญชีธนาคาร ที่อยู่สําหรับเรียกเก็บเงิน เลขที่บัตรเครดิต ชื่อผู้ถือบัตร และรายละเอียด ของบัตรเครดิต
  • ข้อมูลการทํางาน: ประวัติการทํางาน หมายเลขใบประกอบวิชาชีพแพทย์ หรือพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต ทํางาน (Work Permit)
  • ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล์ และรายละเอียด Social Media
  • ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ที่อยู่ IP คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ข้อมูลระบุตัวตน และข้อมูลตําแหน่งทางภูมิศาสตร์
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive Personal Data):
              o ข้อมูลศาสนา
              o ข้อมูลเชื้อชาติและ
              o ข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลสุขภาพ และการตรวจรักษา

          นอกจากนี้เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่านบางประเภทเพื่อการเข้าเป็นคู่ค้า กับเรา อย่างไรก็ตาม เราจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่ในกรณีที่ กฎหมายอนุญาตให้เราสามารถทําได้

          ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ แก่เรา ท่านตกลง และรับรองว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบ แล้วว่าเราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว รวมทั้งได้แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงประกาศความเป็น ส่วนตัวของเราแล้ว และในกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด ท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวตาม รูปแบบ และเนื้อหาที่เรากําหนดสําหรับการที่เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว

2. วิธีทีเรานําข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้

          เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่เรามีความจําเป็น และเหตุผลที่เหมาะสมในการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลเท่านั้น ทั้งนี้ เราจะใช้ฐานทางกฎหมายอย่างน้อยหนึ่งฐานดังต่อไปนี้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • ฐานสัญญา - เมื่อเราจําเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อที่จะปฏิบัติตามตามสัญญา หรือก่อนที่ เราจะเข้าทําสัญญากับท่าน
  • ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย - เมื่อเรามีความจําเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตาม กฎหมาย หรือภาระข้อผูกพันตามกฎหมาย
  • ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย - เมื่อเป็นประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของเราที่จะประมวลผลข้อมูลส่วน บุคคลของท่านตามที่กฎหมายอนุญาต เว้นแต่ที่เราเห็นว่าประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของเรามีความสําคัญ น้อยกว่าประโยชน์และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่าน
  • ฐานความยินยอม - เมื่อท่านให้ความยินยอมกับเราในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ใดวัตถุประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะ

          อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน ยกเว้นใน กรณีที่กฎหมายอนุญาตให้เราทําได้

          เราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และฐานทางกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

การจัดหาสินค้าและ/หรือบริการ

·       เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน

·       เพื่อสร้าง และจัดเก็บฐานข้อมูลของท่าน

·       เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดหาสินค้า และ/หรือบริการกับท่าน

·       เพื่อการทํารายการสั่งซื้อสินค้า และ/หรือบริการจากท่าน และ เก็บเป็นหลักฐานการสั่งซื้อ

·       เพื่อเรียกรับสินค้า และ/หรือบริการจากท่าน

·       เพื่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับสินค้า และ/หรือบริการ

·       เพื่อจัดทํารายละเอียดข้อตกลง และสัญญาระหว่างเรากับท่าน

·       เพื่อบริหารจัดการการชําระเงิน รวมถึงจัดการค่าใช้จ่าย และเก็บ หลักฐานการชําระเงิน

·       เพื่อตรวจสอบข้อมูลสุขภาพของผู้ให้บริการเฉพาะตําแหน่ง

·       เพื่อปฏิบัติตามคําร้องขอตามสิทธิที่ท่านมีต่อข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านที่อยู่ในความครอบครองของเรา

·       เพื่อการพิจารณาทําหนังสือคําประกัน และวางหลักประกัน

·       ฐานสัญญา

·       ฐานความยินยอม

·       ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

·       ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ

·       เพื่อบริหารความสัมพันธ์ระหว่างเรากับท่าน หรือธุรกิจของท่าน

·       เพื่อจัดเก็บ และทําให้ข้อมูลการติดต่อของท่านเป็นปัจจุบัน

·       ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

การดําเนินธุรกิจ และพัฒนาธุรกิจ

·       เพื่อวางแผนการพัฒนาสินค้า และบริการที่มีอยู่

·       เพื่อประเมินความเหมาะสมในการเป็นคู่ค้า หรือพันธมิตรทาง ธุรกิจของท่านกับเรา

·       ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

การบริหารจัดการความปลอดภัยและความเสี่ยง

·       เพื่อป้องกันอาชญากรรม บริหารจัดการความปลอดภัย และ สุขลักษณะของเรา เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายใน และโดยรอบร้านอาหาร และ/หรือพื้นที่ของเรา ซึ่งอาจมีการเก็บ ภาพเคลื่อนไหว หรือบันทึกเสียงของท่าน

·       เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ปฏิบัติงานของเรา

·       เพื่อจัดทํารายงานการตรวจสอบสรุปการแก้ไข และแนวทาง ป้องกันภายใน

·       เพื่อจัดการกับข้อพิพาททางกฎหมาย

·       เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

·       ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

·       ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

 

          เราจะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในประกาศ ความเป็นส่วนตัวนี้ หากเราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติมซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ เราจะแจ้งให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านก่อนการประมวลผลดังกล่าว เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้เรา ดําเนินการดังกล่าวได้โดยไม่ต้องอาศัยความยินยอมของท่าน ทังนี้ ท่านมีสิทธิให้ความยินยอม หรือปฏิเสธการประมวลผล ส่วนบุคคลของท่านได้

          กรณีที่ท่านปฏิเสธการให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเรา

          ในกรณีที่เราจําเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่กฎหมายอนุญาต หรือข้อกําหนดในสัญญา ระหว่างท่านกับเรา และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเรา เราอาจไม่สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่เรามีอยู่ หรือจะมี ต่อท่าน และอาจไม่สามารถดําเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านต่อได้

3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

          เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่เรามีความจําเป็น และเหตุผลที่เหมาะสมในการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งอาจรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้

  • จําเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกําหนดของสัญญา
  • มีหน้าที่ตามกฎหมายในการกระทําการดังกล่าว (เช่น การหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นต้น)
  • จําเป็นต้องรายงานตามกฎหมาย ดําเนินคดี ใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือปกป้องสิทธิตามกฎหมาย
  • กระทําไปเพื่อประโยชน์ของธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของเรา (เช่น เพื่อบริหารความเสี่ยง เพื่อการรายงานภายในองค์กร เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อยืนยันตัวตน เพื่อให้บริษัทอื่น สามารถให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ เพื่อประเมินความเหมาะสมในการเป็นคู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจของ ท่านกับเราเป็นต้น)
  • ขอความยินยอมจากท่านเพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่น และท่านได้ให้ความยินยอมในการ ดําเนินการนั้น เราอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่นดังต่อไปนี้
  • บริษัทในเครือของเรา
  • ผู้รับเหมาช่วง นายหน้า หรือผู้ให้บริการใด ๆ ที่ทํางานให้กับเรา หรือให้บริการกับเรา ซึ่งรวมถึงผู้รับเหมาช่วง นายหน้า ผู้ให้บริการ ผู้บังคับบัญชา และผู้ปฏิบัติงานของบุคคลดังกล่าว
  • ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการดูแลผลประโยชน์ใด ๆ ของท่าน รวมถึงคนกลาง บุคคลผู้ติดต่อ และตัวแทนของท่าน เช่น ผู้รับมอบอํานาจ ทนายความ เป็นต้น
  • บุคคลใด ๆ ที่ท่านชําระเงินให้ และ/หรือได้รับชําระเงิน รวมถึงสถาบันทางการเงิน และผู้ให้บริการรับชําระเงิน
  • บุคคล หรือบริษัทใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างบริษัท การควบรวมกิจการ หรือเข้าถือครองกิจการที่ เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้น โดยรวมถึงการโอนสิทธิ หรือหน้าที่ใด ๆ ซึ่งเรามีอยู่ภายใต้สัญญาระหว่างเรากับท่าน
  • หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย รัฐบาล ศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท ผู้ตรวจสอบบัญชี และบุคคลใด ๆ ซึ่งถูก แต่งตั้ง หรือร้องขอ ให้ตรวจสอบกิจกรรมการดําเนินงานของเรา
  • บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้น
  • หน่วยงานป้องกันการทุจริตซึ่งใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน และสืบหา และป้องกันการทุจริต รวมถึงอาชญากรรมทางการเงิน
  • บุคคลใด ๆ ที่เราได้รับคําสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว

          การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

          เราอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ทําขึ้นระหว่างท่านกับเรา เพื่อปฏิบัติตามข้อกําหนดทางกฎหมาย เพื่อปกป้องคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และ/หรือเพื่อผลประโยชน์อันชอบด้วย กฎหมายของเรา โดยกฎหมายของบางประเทศอาจกําหนดให้เราต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทให้กับบุคคล ตามที่กฎหมายดังกล่าวกําหนด (เช่น เปิดเผยให้กับหน่วยงานจัดเก็บภาษีเป็นต้น) ในกรณีนี้ เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคลให้กับบุคคลที่มีสิทธิเห็น หรือเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่านั้น และจะกําหนดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลในระดับที่เหมาะสม

4. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

          เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าที่จําเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความ เป็นส่วนตัวนี้ เว้นแต่จะมีการขยายระยะเวลาตามที่ถูกร้องขอ หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมาย เมื่อเราไม่มีความจําเป็น จะต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะดําเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หรือถ้าในกรณีที่ไม่อาจจะเป็นไปได้ (เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูก จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลสํารองแบบถาวร) เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างปลอดภัย และคัดแยกข้อมูลส่วน บุคคลของท่านออกจากการประมวลผลต่อไปจากนี้ จนกระทั่งเราสามารถดําเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

          ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

          เราขอความร่วมมือจากท่านในการทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของเรามีความเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และถูกต้อง โดยท่านสามารถแจ้งเราเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้ผ่านช่องทางการ ติดต่อในข้อ 8.

          เราอาจขอให้ท่านปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง และสมบูรณ์

5. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับเราเมื่อใดก็ได้ ตาม ขั้นตอน และวิธีการที่เรากําหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการเข้าถึง ขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เรา เปิดเผยการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคําขอของท่านได้ตามกฎหมาย หรือ คําสั่งศาล หรือกรณีที่คําขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ใน กรณีที่ข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน และทําให้ข้อมูลของท่านเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอให้ลบ ทําลาย หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เว้นแต่กรณีที่เราต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บ รักษาข้อมูลดังกล่าว
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วน บุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เรามีเหตุในการปฏิเสธคําขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
  • สิทธิในการห้ามมิให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว หรือถาวรได้
  • สิทธิในการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบ อิเล็กทรอนิกส์ หรือขอให้ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่กรณีที่เราไม่สามารถ ทําได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือมีเหตุในการปฏิเสธคําขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
  • สิทธิในการยืนข้อร้องเรียน: ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ท่านเชื่อว่าการ กระทําของเราไม่เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้บัญญัติไว้

          ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านได้ตลอดเวลาโดยติดต่อเราผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็น ส่วนตัวนี้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม อย่างไรก็ตามเราอาจคิดค่าธรรมเนียมตามสมควรหากคําขอของท่านไม่มีมูล ซํ้าซ้อน หรือมีมากเกินความจําเป็น และเราอาจปฏิเสธที่จะดําเนินการตามคําขอของท่านในสถานการณ์เหล่านั้นได้

          การจัดการกับเรืองร้องเรียน

          ท่านสามารถติดต่อเราเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ที่ช่องทางการติดต่อ ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้

6. การรักษาปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

          เราให้ความสําคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจะตรวจสอบ และใช้มาตรการ รักษาความปลอดภัยทั้งทางกายภาพ และทางเทคนิคที่ทันสมัยอยู่เสมอเมื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราได้ กําหนดนโยบาย และมาตรการควบคุมภายในเพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทําลายโดยไม่ ตั้งใจ ถูกนําไปใช้ในทางที่ผิด ถูกเปิดเผย และเข้าถึงโดยบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่พนักงานของเรา โดยพนักงานของเรานั้นได้รับ การอบรม และฝึกฝนให้จัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัยภายใต้นโยบายของเราอยู่เสมอ

7. การแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัว

          ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ระบุไว้ด้านบนของเอกสาร โดยอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตาม การแก้ไขเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนั้น สามารถดูได้จากวันที่ที่ระบุไว้ข้างต้นของประกาศความเป็นส่วนตัว ฉบับนี้ดังนั้น ท่านควรตรวจสอบประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เป็นระยะเพื่อรับทราบการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

8. ติดต่อเรา

          หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือต้องการใช้สิทธิใด ๆ ท่านสามารถติดต่อเราได้ที่

  • ติดต่อที่ : บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) 1200 ถนนเทพรัตน แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
  • อีเมล์ถึง : dpo@mkrestaurantgroup.com หรือ
  • หมายเลขโทรศัพท์ : 02-836-1088 หรือ 02-066-1000